ผมชื่อกันต์ 28 ปี ชีวิตเพิ่งพังยับ
แฟน 5 ปีทิ้งไปกับเพื่อนร่วมงาน งานก็กดดันจนอยากตาย
ผมเลยหนีขึ้นดอยอินทนนท์คนเดียว ไม่บอกใคร ขับกระบะขึ้นมาถึงตอนสี่โมงเย็น เลือกจุดแคมป์ที่ลับที่สุด ริมลำธารเล็กๆ ห่างจากโซนหลักเกือบ 4 กม. ป่าทึบ ไม่มีไฟ ไม่มีสัญญาณ เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น
กางเต็นท์เสร็จ ผมจุดไฟ นั่งย่างเนื้อ ดื่มเบียร์คนเดียวไป 5 กระป๋อง อากาศหนาวจนตัวสั่น แต่ในใจร้อนแปลกๆ เหมือนมีอะไรกำลังมา
ตีสองครึ่ง ฝนเริ่มตกพรำๆ ผมกำลังจะมุดเข็มในเต็นท์ จู่ๆ เสียงเครื่องบิ๊กไบค์ดังสนั่นป่า ไฟหน้าสาดแสงสีขาวส่องตรงมาเต็มเต็นท์
คนขี่ลงจากรถ ไม่พูดสักคำ เดินตรงเข้ามาหาผมทันที
ตัวสูงเกือบ 190 ไหล่กว้าง ใส่แจ๊คเก็ตหนังดำเปียกฝน หมวกกันน็อกยังไม่ถอด เงาดำทะมึนจนผมขนลุกซู่
เขายกคางหมวกขึ้นนิดนึง ผมเห็นแววตาแค่ดวงเดียว มันดุจัด ดำสนิท เหมือนเสือที่เจอเหยื่อ
“ขอไฟหน่อย” เสียงทุ้มต่ำ ดังก้องในอกผม
ผมพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว เขานั่งลงข้างกองไฟ หยิบเบียร์จากลังผมมาเปิดดื่มรวดเดียวหมดกระป๋อง แล้วโยนกระป๋องทิ้งข้างๆ
“ชื่ออะไร”
“กันต์ครับ”
เขาพยักหน้า ไม่บอกชื่อตัวเอง
ผ่านไปสิบนาที ความเงียบกดดันจนอึดอัด เขาพูดขึ้นกะทันหัน
“มากางเต็นท์คนเดียว ไม่กลัวคนมาข่มขืนเหรอ”
ผมสะดุ้ง หัวใจเต้นแรงจนเจ็บ “กลัวสิครับ”
เขายิ้มมุมปากช้าๆ “ดี”
แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน เดินอ้อมมาข้างหลังผมทันที มือใหญ่คว้าคอเสื้อผมกระชากลากขึ้นยืนแรงๆ จนผมเซ
“กลัวแล้วทำไมยังนั่งอยู่นิ่งๆ”
ผมอ้าปากจะตอบ แต่เขาก้มลงกัดติ่งหูผมแรงจนเสียวผ่าว กระซิบเสียงแหบ
“คืนนี้มึงเป็นของกู”
ไม่ทันได้ตั้งตัว เขาดันผมลงกับพื้นหญ้าเปียกฝนทันที ตัวเขาทับลงมาเต็มน้ำหนัก หนักจนหายใจแทบไม่ออก ปากเขาประกบลงมาบดขยี้ปากผม ลิ้นใหญ่พุ่งเข้ามาในปากทันที ดูด ดูดกลืน ดูดจนน้ำลายไหลย้อย
ผมดิ้น เขากดข้อมือผมล็อกไว้กับพื้นด้วยมือเดียว อีกมือล้วงเข้าไปใต้เสื้อ บีบหัวนมผมแรงจนผมร้องในลำคอ
“ชอบใช่ไหม” เขาถาม แต่ไม่รอคำตอบ ดึงเสื้อผมขาดออกจากกันในทีเดียว ปุ่มกระดุมกระเด็นตกพื้นหญ้า
เขากัดลงที่หัวนมผมสลับซ้ายขวา แรงจนเลือดซึม ผมครางดังจนตัวเองตกใจ
“ครางเก่งดีว่ะ” เขาหัวเราะในลำคอ แล้วลากผมล arr ลุกขึ้น ดึงเข้าป่าไปข้างลำธารทันที
ฝนตกหนักขึ้น เขาดันผมลงกับโขดหินริมน้ำ คว่ำหน้าผมลง หินเย็นเฉียบติดแก้ม
“ถอด” เขาสั่งเสียงเย็น
ผมสั่นระริก ถอดกางเกงออกเอง เขาถอดเสื้อแจ๊คเก็ตหนังออก โยนทิ้งพื้น เผยให้เห็นร่างกายกำยำเต็มกล้าม รอยสักเสือทั้งตัว แขนลายเต็ม ขนาดควยที่ตุงในกางเกงหนังรัดจนเห็นเส้นชัด
เขาดึงซิปกางเกงลง ควยใหญ่ยาวสีเข้มเด้งออกมาเต็มตา หัวบานเป็นลูกแอปเปิ้ล เส้นเลือดปูดโปน
“อ้าปาก” เขาสั่ง
ผมอ้าปากโดยไม่คิด เขายัดเข้าไปทีเดียวจนมิดลำคอ ผมแทบอ้วก แต่เขากดหัวผมแน่น กระเด้าปากแรงๆ จนน้ำลายไหลเป็นสาย
“ดูด ดูดแรงๆ” เขาสั่ง เอวขย่มหน้าผมเหมือนเย็ดหี เร็วและดุจนผมน้ำตาไหล
ผ่านไปนาน เขาดึงออกมา ควยชุ่มน้ำลาย เงาวับใต้แสงจันทร์
แล้วเขาคว่ำหน้าผมลงกับหินอีกครั้ง มือแยกขาผมออก ก้มลงเลียรูผมครั้งเดียว แล้วดันควยเข้าไปทีเดียวจนสุดโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ผมร้องลั่นป่า เสียงดังจนนกบินหนี เจ็บจนขาแข็งทื่อ แต่เขากระแทกทันที แรง ดุ เร็ว ไม่มีเมตตา เอวชนก้นดังเพียะๆ ผสมเสียงฝนตก
“แน่นดีว่ะ” เขาคราง “รูมึงเกิดมาเพื่อให้กูเย็ดชัดๆ”
เขาจิกผมผมไว้เหมือนบังคับม้า กระแทกไม่ยั้ง ควยใหญ่จนรู้สึกเหมือนถูกเสียบด้วยเหล็ก ทุกครั้งที่ดันสุด เขาจะค้างไว้ บดๆ แล้วกระทุ้งใหม่แรงกว่าเดิม
ผมร้องไห้ น้ำตาไหลผสมฝน แต่ควยตัวเองกลับแข็งจนเจ็บ เขายื่นมือมาชักให้ผมพร้อมกัน
“แตกพร้อมกู” เขาสั่ง
อีกไม่ถึงนาที ผมแตกคาหิน น้ำว่าวพุ่งกระจาย เขากระแทกอีกสองสามที แล้วร้องคำรามลั่น ก่อนน้ำร้อนๆ พุ่งลึกเข้าไปข้างในผมจนล้น
เขาค้างอยู่นาน หายใจหอบ ก้มลงกัดไหล่ผมแรงๆ จนเลือดซึม
“รอบแรก” เขากระซิบ “ยังมีอีกทั้งคืน”
แล้วเขาก็อุ้มผมที่ยังตัวเปล่าเปียกฝนกลับเข้าเต็นท์ ซิปกั้นโลกภายนอกออกทั้งหมด
ข้างในเต็นท์ มีเพียงเสียงฝน เสียงคราง และเสียงเนื้อกระทบกันไม่หยุดจนฟ้าสาง
เช้า เขาขี่บิ๊กไบค์จากไปโดยไม่หันกลับ ไม่บอกชื่อจริง ไม่ทิ้งเบอร์
เหลือไว้แค่รอยกัดเต็มตัว รอยตีก้นที่ยังแดงจัด และความเจ็บจี๊ดๆ ที่เดินแทบไม่ได้
ผมยิ้มคนเดียว นั่งมองลำธารที่ยังไหลเชี่ยว
แล้วกางเต็นท์รอคืนถัดไป...
เพราะรู้ดีว่า เขาจะกลับมาแน่นอน