รถวิ่งไม่เร็วนัก สถาพถนนดีขึ้นกว่าเก่ามาก เขานั่งมองทิวทัศน์ริมถนนไปอย่า
วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557
แค้นรำลึก ''ฉบับเต็ม''
รถโดยสารประจำทางผ่านไป ทิ้งม่านควันกลุ่มใหญ่ที่เหม็นห ื่นคละคลุ้งอยู่เบื้องหลังพอควั นเหล่านั้นจางลง ชายหนุ่มจึงมองเห็นอะไรหลายๆอย่ างได้ชัดเจนขึ้น นับเป็นอะไรเวลาถึงสิบสองปีที่เ ขาไม่เคยย้อนกลับมาที่นี่เลยทาง สามแยกแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที ่ทำให้เขาได้กลับมายืน ณ จุดนี้อีกครั้งหนึ่งเขายืนสำรวจ ทบทวนสถาพบริเวณรอบๆ แห่งนี้ครู่หนึ่ง มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากเล ย ร้านขายของชำยายอิ่มทางซ้ายมือมันก็ย ังเป็นร้านขายของชำอยู่เช่นเดิม แต่ขนาดของร้านโตขึ้นหลายคูหา ยายอิ่มก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ความกระฉับกระเฉงของแกถูกความชร ากลืนหายไปจนหมด เดี๋ยวนี้คงเห็นแต่ภาพยายแก่นั่ งเคี้ยวหมากอยู่บนแคร่หน้าร้าน บางครั้งก็คอยช่วยเหลือลูกหลานห ยิบส่งของขายบ้างเป็นครั้งคราว เขามองภาพต่างๆที่ปรากฏอยู่ ก็อดนึกเจ็บใจตัวเองขึ้นมาไม่ได ้ ที่อุตสาห์ใช้ความทรหดอาศัยข้าว ก้นบาตรพระ ไปร่ำเรียนมาจนถึงขั้นปริญญาแต่ ยังหางานทำที่มั่นคง และมั่นใจเท่าลูกๆของยายอิ่มซึ่ งจบแค่ป.6 ไม่ได้ เขาน่าจะทักทายยายอิ่มสักคำ แต่เปล่าเลย จุดหมายปลายทางของเขาคือบ้าน ที่เขาได้จากไปแสนนานเขาคิดถึง พ่อ แม่ ไอ้ไข่ และน้องๆ ป่านนี้พ่อและแม่คงลือเรื่องราว ต่างๆของเขาเสียสิ้น และคงให้อภัยแก่เขาแล้ว ‘’ พี่จะไปไหนครับ’’ หนุ่มขับจักรยานยนต์รับจ้างเข้า มาทักทาย’’ ‘’บ้านสุดทุ่ง’’ เขาบอกไปตามจุดประสงค์หนุ่มจักร ยานยนต์รับคำ แม้ระยะทางกว่าจะถึงบ้านสุดทุ่ง นั้นจะไกลพอสมควรอยู่ มันก็ต้องจำยอมส่งผู้โดยสาร เพราะเงินตราผู้เป็นพระเจ้าสามา รถช่วยลูกเมียของเขาไปได้หลายมื ้อทีเดียว
รถวิ่งไม่เร็วนัก สถาพถนนดีขึ้นกว่าเก่ามาก เขานั่งมองทิวทัศน์ริมถนนไปอย่า งสดชื่น เขาสูงตระหง่านสลับยอด เงาไม้น้อยใหญ่ริมเชิงเขาทอดตัว ลงนอนแนบทุ่งนา ‘’ ท้องทุ่งนา’’เรากระซิบกับตัวเอง เบาๆ ใช่ซิก็เพราะเจ้าทุ่งนาระหว่างบ ้านสุดทุ่งกับบ้านวัดไทรมิใช่หร ือ ที่ต้องทำให้เขาต้องระเหเร่ร่อน หลบหน้าผู้คนจากบ้านสุดทุ่งไปถึ งสิบสองปีเต็ม เขายังจำได้ดี บ่ายวันนั้น ไอ้ไข่ หลานของเขาเองได้มาบอกว่า เจ้าสูญหนุ่มกระเตาะรุ่นๆกับเขา ให้ไอ้ไข่จับเจ้าหนูเนื้อแน่นขอ งมันคลึงเล่นอย่างสนุกมือ ‘’มันเหมือนแท่งน้ำแข็งบอกเลยอา ทอง’’ เจ้าไข่เล่าอย่างตื่นเต้น คำพูดของเจ้าไข่เหมือนกับการจุด ประกายไปให้เจิดจ้าขึ้นในหัวใจเ ขา เขาต้องการจับเนื้อแน่นแสนหวงขอ งเจ้าสูญบ้าง เขาอยากกอดรัดลูบไล้ ร่างกำยำของเจ้าสูญ เขาพอใจในความมีเสน่ห์คมคายของเ จ้าสูญ ไม่รู้เหมือนกันว่าความต้องการเ หล่านี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรแล ะมันคงเป็นความต้องการที่ทำให้เ กิดความอิ่มสุขทั้งเขาและเจ้าสู ญหลังจากนั้นเขาได้อาสาพ่อพาวัว ไปเลี้ยงกลางทุ่ง ใกล้ๆ กับเจ้าสูญเมื่อมีโอกาสเหมาะการ เริ่มต้นที่บริสุทธิ์ เพื่อนำไปสู่เกมส์แห่งความใคร่จ ึงเกิดขึ้น ขณะที่เขาและเจ้าสูญตามวัวไปกิน น้ำที่แอ่งน้ำกลางท้องทุ่ง ‘’ …ของวัวเอ็งกับวัวข้าใครใหญ่กว่ ากันว่ะ ‘’ สูญเขาพูดเป็นช่องทางดักหลุมลวง เจ้าสูญ ‘’ของวัวข้าว่ะ ทอง แต่ของเจ้าของวัวใหญ่แน่ๆ ‘’ สูญกล่าวอย่างคึกคะนอง ทั้งสองคุยกันเพลิดเพลิน เมื่อวัวกินน้ำเสร็จ เจ้าสูญก็ได้ชวนเขาไปนอนเล่นรับ ลมที่หนำ (เพิงพักพุ่มจากกลางทุ่ง) ริมทุ่ง ‘’ที่เอ็งว่าของเอ็งใหญ่ จริงไหมว่ะสูญ ‘’ เขายังติดใจในเรื่องนี้’’ เอ็งหลับตาซิแล้วข้าจะให้พิสูจน ์’’ เจ้าสูญคิดจะเล่นบทลึกลับกับเขา ทองหลับตาอย่างเจ้าสูญว่า ด้วยความคึกคะนองอยากจะสนองอารม ณ์เพศของเจ้าสูญมันค่อยๆ งัดเจ้าหนูถูไถกับร่างกำยำของมั นค่อยแอ่นตัวเข้าไปถูไถหน้าท้อง ของเขา เขาต้องสะดุ้งวาบซาบซ่าน เลื่อนมือลงกำเนื้อนั่นอย่างกระ ชับ ไม่มีการพูดคุยออะไรต่อไปอีก สองหนุ่มท้องทุ่งกำลังกุลีกุจอ สนองอารมณ์ใคร่ที่เกิดขึ้นตามธร รมชาติของวัยหนุ่ม เขาพยายามใช้หัวเนื้อเส้นเอ็นให ญ่มาประกบกันแต่ไร้ผลเจ้าสูญทนค วามกลัดมันไม่ไหว มันติต่างว่าให้เขาต้องรับบทเป็ นผู้รองรับความใคร่ มันจึงระดมจูบลูบไล้ จนทองสั่นสะเทิ้มไปทั่ว ความเป็นชายของเจ้าสูญซอยสั่นไห วไปทั่วช่องท้องของเขา ลมทุ่งตะวันออกพัดอู้ ชายคาหนำสั่นระริกใบไม้ แห้งกลิ้งตัวไปด้วยความเร็วแล้ว ค่อยๆ ช้าลงตามความอ่อนของแรงลม เจ้าสูญพลิกตัวครางเสียงอ่อย แล้วถามเขาด้วยความเป็นห่วง ‘’เลอะไหม’’ ‘’ มีความสุข อยากให้เอ็งกอดและทำ…ทำกับเรานา นๆ ‘’ เขาตอบตามความรู้สึกที่ได้รับ ตะวันบ่ายคล้อย เขาและสูญได้แยกกันไปพร้อมกับวั วอย่างมีความสุขสูญจูงวัวเดินบน คันนาผิวปากร้องเพลงมุ่งหน้าไปท างบ้านวัดไทรอย่างสบายอารมณ์ ส่วนเขาจูงวัวเดินกลับไปทางบ้าน สุดทุ่งอย่างอิ่มเอิบใจ นับจากวันนั้นเขาขันอาสาพ่อเอาว ัวไปเลี้ยงเป็นประจำจนดูท่าพ่อจ ะรักเขาขึ้นมาบ้างแต่หลายวันมาน ี้เขาไม่เห็นหน้าเจ้าสูญเลย วันนี้อากาศร้อนอบอ้าว ลมท้องทุ่งเงียบสงัด ยอดหญ้าริมทุ่งหยุดไหวแอ่งน้ำกล างทุ่งนาสงบนิ่งแต่ใจของเขากลับ ว้าวุ่นกระวนกระวายสับสน ไปหมด ‘’มันหายไปไหนของมันน่ะ’’ เขารำพึงกึ่งสบถตะวันคล้อยลับเห ลี่ยมเขาถามโพล้เพล้เช่นนี้ เขาควรจะนำวัวกลับบ้านได้แล้ว แต่วันนี้ไม่เขาจะไม่นำวัวกลับ จนกว่าจะได้พบสูญอีกครั้ง สายตาเขาเหม่อลอยไปทางบ้านวัดไท ร โชคยังเป็นของเขาอยู่ สูญวิ่งมาตามคันนาอย่างกระหืดกร ะหอบ เขาลุกขึ้นโบกไม้โบกมืออย่างดีใ จวิ่งเข้าหาสูญอย่างเร่าร้อน ความต้องการที่ทำให้เกิดความสุข ที่เข้าใจกันบางครั้งก็ไม่ต้องม ีบทสนทนา สูญล้มตัวลงนอนบนซังนาข้าวกลางท ุ่งนา ‘’วันนี้รีบหน่อยนะ ข้ามีงานแยะต้องรีบกลับ’’ เขาค่อยๆ ล้มตัวลงทับสูญ ซุกไซร้ตรงซอกคอ แล้วค่อยๆ เลื่อนตัวลงต่ำ เสียงเจ้าสูญฟังไม่ได้ศัพท์ แม่วัวร้องเรียกลูกเสียงมอ มอ เขาต้องการให้โลกหยุดหมุน ต้องการให้ความสุขขณะนี้เป็นของ เขาตลอดไป แต่ใครเล่าจะหนีสัจธรรมไปได้พ้น มียศก็ต้องมีเสื่อมยศ มีมืดก็ย่อมมีสว่าง มีสุขก็ย่อมมีทุกข์เป็นธรรมดาขณ ะที่เขาก้มตัวลงปลุกความสุขของเ จ้าสูญ อย่างเมามัน พลันฝ่าเท้าที่แข็งแกร่งถีบโครม เข้าตรงซี่โครงด้านข้าง จนต้องพลิกคว่ำพลิกหงายไปหลายตล บ ‘’ไอ้ลูกอับปรีย์’’ เสียงด่าลั่นจากผู้ที่ได้ชื่อว่ าเป็นพ่อ สูญเก็บความรู้สึกที่คั่งค้างลุ กขึ้นวิ่งกลับวัดไทรอย่างไม่คิด ชีวิต ส่วนเขาต้องถูกระดมทั้งมือทั้งเ ท้าจนถึงบ้าน พ่อยังด่าประจานเขาอย่างไม่ปราณ ี และเขาก็ไม่ได้ส่งเสียงอ้อนวอนต ่อพ่อเลย ‘’ไอ้ลูกกาลี…มึงออกไปจากบ้านกู ’’ ผู้เป็นพ่อทั้งด่าทั้งสาปแช่งเข าได้ถึงเพียงนี้ น้ำตาเขาไหลพรากขึ้นไปกราบแม่เป ็นครั้งสุดท้ายแม่ไม่ยอมมองหน้า เขา แล้วใครล่ะที่ทำให้เขาต้องเป็นอ ย่างนี้ พวกพ่อรักเขาเหมือนลูกคนอื่นๆบ้ าง เขาคงไม่เป็นอย่างนี้ แต่พ่อไม่เคย สนใจเขาเท่ากับเหล้าเลย และแม่ยังให้เวลากับการเล่นไพ่ม ากกว่าเวลาที่จะอยู่กับเขา แล้วใยต้องทารุณ และไล่เขาออกจากบ้านนี้ เขาต้องหอบผ้าผ่อน เดินทางอย่างแสนเข็ญออกจากบ้านส ุดทุ่งตั้งแต่หัวค่ำ จนใกล้รุ่งก็ได้แคร่หน้าร้านยาย เอี่อมนั่นแหละเป็นที่ซุกหัวนอน ยายเอี่อมให้ความเมตตากับเขามาก กว่าใครๆให้เงินยี่สิบบ้านไว้ทำ ทุกชีวิตในภายภาคหน้า รถมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าร่มยางพาร า ไอเย็นระรื่นจากธรรมชาติที่หาได ้ เสมอในฤดูร้อนผ่านมากระทบผิว จนทำให้เขารู้สึกสดชื่นและคลายร ้อนจากเปลวแดด ‘’พี่จะลงที่ทางเข้าหรือให้ผมไป ส่งถึงที่บ้านครับ’’ ผู้ทำหน้าที่ขนส่งสงสัย ‘’ไปส่งที่หน้าวัดสุดทุ่งก็แล้ว กัน’’ เลยสวนยางพาราจากนี้ไปจะถึงสามแ ยกอีกแห่งหนึ่ง แยกหนึ่งเป็นทางออกสู่เมืองแยกห นึ่งไปหมู่บ้านวัดไทร และอีกแยกหนึ่งมุ่งไปบ้านสุดทุ่ ง มีทุ่งกว้างขวางกั้นเป็นการแบ่ง เขตของหมู่บ้านทั้งสองเขาเหลียว มองหนำกลางทุ่ง แหล่งปลุกสวาทตำนานใคร่ระหว่างเ ขากับสูญ มันยังคงโดดเด่นและเงียบเหงาอยู ่เช่นเดิม เขาพยายามกดภาพแห่งความหลังที่ผ ุดขึ้นอีกครั้งหนึ่งเพราะเขาต้อ งเตรียมพร้อมปรับสภาพกายใจที่ได ้พบเจอกับพ่อ แม่ พี่น้อง อีกไม่กี่อึดใจ เสียงเครื่องยนต์นิ่งสนิท เขาก้าวถอยออกมา บรรยากาศรอบข้าง เงียบสงัด เจ้าไข่วิ่งเข้ามาหาอย่างร้อนรน ‘’ พี่ทองใช่ไหม ไม่ต้องไปบ้านหรอกแม่พี่อยู่ในว ัด’’ หญิงแต่งชุดดำเดินสวนเข้าออกทาง ประตูวัด ทุกคนมีสีหน้าสลด ไม่มีใครทักทายเขาสักคน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เขาเดินผ่านผู้คนไปจนถึงศาลาอิ่ มใจ ‘’แม่…แม่อยู่ไหน ทำไมพอถึงต้องเป็นอย่างนี้ ‘’เขาตะโกนออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง หญิงวัยกลางคนร่างผอมเกร็ง แก้มตอบตะโกนสวนมาอย่างไม่ยั้งน ้ำใจ ‘’แกกลับมาทำไม ไอ้ลูกหน้าตัวเมีย ไอ้ลูก…ไอ้ลูก…ไอ้ลูก….’’ นางชี้หน้าทองลูกในไส้ร้องไห้โฮ ดังลั่น จนแขกหรือในงานช่วยปลอบประโลมพา นางออกไป ‘’เพราะมันพ่อมันถึงเป็นอย่างนี ้’’ นางเหลียวกลับมาซ้ำเติม เขารีบเอามืออุดหู กดศีรษะแน่นเขาอ่อนทรุดลงกับพื้ น ทำไมๆ ถึงเป็นเช่นนี้ แม่ที่เขาเคยรักและบูชา ทำไมต้องมาซ้ำเติมเขาแบบนี้ เมื่อสิบสองปีที่ผ่านมาที่เขากั บสูญเคยพลอดรักกันมันเป็นความผิ ดร้ายแรง มาจนถึงบัดนี้หรือ ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเข้าบ้างก ฎบ้าบออันนี้ใครสร้างมัน เขาฟาดกำปั้นลงบนดินด้วยความคั่ งแค้นเจ็บช้ำหัวใจ ไม่มีใครสนใจสภาพของทองในขณะนี้ เลย ดูพวกเขาจะสะใจทุเรศในตัวทองเสี ยด้วยซ้ำ เมื่อความคับแค้นมันเต็มที่มันก ็มีวิธีระบาย เขาข่มใจเช็ดน้ำตาเชิดหน้าขึ้นอ ย่างทรนงอีกครั้งหนึ่งแล้วมันเร ื่องอะไรที่จะต้องไปสนใจคนอื่นเ ขา ชีวิตนี้เป็นของเรา กูนี่แหละจะเป็นผู้บัญชาชีวิตกู ทองตั้งปณิธานขึ้นในจิต ‘’พ่อ ลูกขอขมาที่ไม่ได้ตอบแทนคุณ ถ้าพ่อไม่ประจานทองเข้าใจทอง ลูกของพ่อคงไม่เป็นอย่างนี้ ทองรักพ่อ จะแก้แค้นให้พ่อ ‘’ เขาพูดจุดธูปอธิษฐานต่อหน้าโลงศ พผู้เป็นพ่อ หยดน้ำตาเอ่อล้นรินอาบแก้ม เขาช่วยจัดการงานศพของพ่อจนเรีย บร้อยโดยไม่ไยดีกับเสียงอัปมงคล รอบๆข้าง ลมตะวันออกพัดเรื่อยๆ ตะวันอ้อมข้าวคล้อยไปทางทิศตะวั นตก ทองนั่งพิงเสาบนหนำน้อยกลางทุ่ง เหม่อมองรวงข้าวสีทองที่สั่นไหว ตามแรงลม หนำแห่งนี้มันเป็นที่กำเนิดทั้ง ความสุขแรกในชีวิต และความทุกข์หนักของชีวิตให้แก่ เขาเช่นกัน ภาพในอดีตล่องลอยผ่านมาสับสนในส มอง สูญหนุ่มหล่อวัดไทรเดี๋ยวนี้ล่ะ เขาอยู่ที่ไหน เขาเคยถามข่าวคราวของสูญกับเจ้า ไข่หลานชาย เจ้าไข่บอกเขาว่า ‘’พี่สูญมีสาวคนรักใกล้ๆบ้านเรา แต่พ่อของพี่ทองไปประจานพี่สูญว ่ากระเทย สาวจึงตัดรัก ทำให้พี่สูญเสียใจมาก’’ เจ้าไข่เล่าให้เขาเพียงแค่นี้ แล้วที่พ่อถูกฆ่าตาย เป็นเพราะปากพ่อรึปล่าว เสียงลือว่าสูญเป็นคนฆ่านั้นจริ งหรือ? เขานั่งคิดสร้างเรื่องเรื่อยเปื ่อยเหมือนสายลมที่พัดระเรื่อยอย ู่กลางทุ่ง ริมทุ่งทางวัดไทรปรากฏเงาของใคร คนหนึ่ง เดินมุ่งมาทางหนำกลางทุ่งที่เขา นั่งอยู่เมื่อเจ้าของร่างนั้นใก ล้ถึงหนำ เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ก่อน จึงชะงักนิดนึง ‘’สูญใช่ไหม’’ เขาโพล่งเรียกไปอย่างตื่นเต้น ผู้ถูกเรียกจึงเดินเข้ามาใกล้ ‘’ทองเรอะนั่น’’ สูญพูดอย่างเหงาหงอย แต่แฝงความระแวดระวังเอาไว้ ‘’แกจากไปเสียนานหล่อขึ้นนะ’’ สูญพูดต่อ’’แกก็เปลี่ยนไปนะสูญ ดูไม่รื่นเริงเหมือนเมื่อก่อน’’ สูญเปลี่ยนไปมากจริงๆ ดำกร้านขึ้นเค้าของความหล่อเกือ บไม่เหลืออยู่เลย เสน่ห์หนุ่มท้องนาผู้ทรนงหายไปไ หนหมด จริงดังพระท่านว่า รูป รส กลิ่น เสียง เป็นอนิจจัง ‘’แกกลับมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร ’’ ‘’ก็หลายวันแล้วล่ะ’’ เขากับสูญพูดคุยกันจนคุ้นเคยเหม ือนเมื่อก่อน ‘’ฉันเบื่อ เหงา จึงมานั่งที่นี่ ‘’ เขาพูดแต่ยังไม่ลืมคำพูดของเจ้า ไข่ ที่จะนำมาประติดประต่อจากปากคำข องเจ้าสูญ ‘’แกยังจำได้ไหมทองที่หนำแห่งนี ้เราเคยมีความสุขด้วยกัน’’ ‘’ข้าอยากให้วันนี้เหมือนวันนั้ น’’ ‘’เอาซิ’’ สูญตอบสั้นๆ พร้อมกับล้มตัวลงนอนราบไปบนพื้น หนำ ทองค่อยๆ เอามือลูบไล้ไปบนแผ่นท้อง ซึ่งมีกล้ามขึ้นเป็นลอนเลื่อนต่ ำลงไปจนถึงปุยขนเนื้อแน่น รุกร้าวเร็วขึ้น เจ้าสูญซี้ดปากขาเกร็ง เราประกบริมฝีปากที่เผอยคอยรับอ ยู่อย่างช้าๆ และหนักหน่วง การเร่าร้อนของอารมณ์เจ้าสูญครา งเสียงฮ่า ! สูญเปลี่ยนร่างพลิกกลับมาขึ้นทั บทองอย่างชำนาญ ทำหน้าที่เป็นผู้บุกรุก เอ็นท่อนใหญ่ดุนดันอยู่ที่โคนขา อ่อนของทอง ไออุ่นของมันเสียดสีจนสั่นระร่า ว ทองดึงสูญเข้ามากอดกระซับ ‘’แกฆ่าพ่อฉันใช่ไหมสูญ’’ อารมณ์เพริดพลิ้วของเจ้าสูญหยุด ชะงักมันคว้ามีดปาดตาลคมกริบ เงื้อขึ้นสุดแขนแทนคำตอบให้กับเ จ้าทอง แต่ทันใดนั้นมันก็หงายหลังตึงดิ ้นพราดอยู่บนพื้นดินข้างล่าง มีดสะปริงแปดนิ้วจมมิดอยู่ที่ยอ ดอกเลือดฉูดกระจาย ‘’อโหสิเถอะสูญ ข้าทำเพื่อ….’’ ถึงสามแยกเสียงล้อรถจิ๊บกระแทกถ นนลาดยางเสียงดังตึง เขาเหลียวมองร้านขายของชำยายอิ่ ม อยากทักทายยายอิ่มสักคำ แต่บัดนี้อิสรภาพของเขาได้สิ้นส ุดลงแล้ว…
รถวิ่งไม่เร็วนัก สถาพถนนดีขึ้นกว่าเก่ามาก เขานั่งมองทิวทัศน์ริมถนนไปอย่า